ไปเที่ยวเมือง LEH ที่ประเทศอินเดียมาครับ เป็นอีกที่ที่อยากไปมานาน เพราะ Landscape สวยๆนี่ล่ะ
หลายคนได้ยินว่าอินเดียคงร้องยี้แน่ๆ แต่ที่นี่ต่างออกไป คนที่นี่เป็นชาวพุทธซะส่วนใหญ่ แล้วก็ความสะอาดผมว่าน่าจะดีกว่าในเดลี (ถึงจะไม่เคยไปเดลี)
แล้วทำไมต้องเรียกว่าเมืองดาวอังคาร ก็เพราะที่นี่มีแต่ภูเขาหิน พืชพรรณต่างๆไม่งอกเงย (จะมีบ้างเป็นบางโซน)
ซึ่งดูแล้วสิ่งมีชีวิตไม่น่าจะีมอยู่ได้ ก็เลยนึกถึงดาวอังคารนั่นล่ะ ครั้งนี้ขอเขียนรวดเดียวจบ เลือกภาพกับสิ่งที่ชอบในทริปนี้มาเล่าคร่าวๆแล้วกัน
ถ้าจะเล่าทั้งทริปคิดว่าคงอีกสัก 10 ปีกว่าจะเขียนจบ ไม่ใช่ว่ายาวมากนะ คือขี้เกียจนั่นเอง
ยอดเขาหิมะระหว่างบินไปเมือง LEH
ปกติชอบถ่ายวิวจากบนเครื่องบินอยู่แล้ว เพราะมันไม่ใช่มุมปกติที่จะเห็นกันได้ง่ายๆ ซึ่งระหว่างทางบินจากเดลี – เลห์ เนี่ยแหละ
ทำให้เห็นเทิือกเขาหิมะมากมาย คือมันเยอะมากๆ มากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลย
ปากีสถานอยู่แค่เอื้อม
ระหว่างทางนั่งรถเที่ยววันแรก ก็ได้รู้มาว่าถนนที่วิ่งเรียบแม่น้ำอยู่เนี่ย อีกฝั่งคือปากีสถานนะ โอ้ มันใกล้ซะจริง
แต่คงไม่อยากไปหรอกเพราะเค้าตีกันอยู่ ตรงนี้มันเป็นเขตแดนทับซ้อนน่ะ (หรือจะเรียกอะไรก็ราวๆนี้ล่ะ)
ขากลับเจอทหารกำลังขนป้อมปืนมาวาง ลุ้นจริงๆ จะยิงกันไหมว้า 555
LEH Market
เป็นตลาดที่รวมทุกๆอย่าง ชอบนะบรรยากาศมาเดินเล่น ร้านแบ่งเป็นสองฝั่งสวยงาม อยากซื้ออะไรที่นี่มีหมด
ขนาดพี่เค็งลืมเอา SD card มา ยังหาซื้อได้เลย ราคาเท่าบ้านเราอีกต่างหาก
ทิวเขาสลับซับซ้อน
คนชอบภูเขาคงปลื้มกับที่นี่ เพราะมองไปทางไหนก็เจอ และเป็นภูเขาหินซะส่วนใหญ่ ไมม่ีต้นไม้ รูปร้างก็เลยแปลกตา ถ่ายรูปสวยงามนั่นล่ะ
เริ่มเห็นภาพของดาวอังคารมากขึ้นแล้วใช่ไหม 555
ถนนสุดขีด
คือได้เดินทางด้วยรถตลอด ไต่เขากันตลอด เอาจริงๆระยะทาง 100 กิโลเนี่ย นั่งกันสามชั่วโมงเลยนะ
แล้วการได้มองกลับไปเห็นทางที่เราวิ่งขึ้นมา โอ้โห มาได้ยังไง แต่คนขับรถเราเก่งมาก เลยไม่เกิดอาการกลัวเลย
ถนนที่สูงที่สุดในโลกที่รถสามารถวิ่งขึ้นไปได้ อันดับ 1-3 อยู่ที่นี่หมดเลย
มารู้ตอนมาเที่ยวนี่ล่ะว่าเราจะได้ผ่านถนนที่สูงที่สุดในโลก อันดับ 1-3 ด้วย ซึ่งอยู่ที่นี่หมดเลย ก่อนมาก็ไม่ค่อยได้หาข้อมูลหรอกนะ
ถามว่าเป็นไง… ก็แวะฉี่มันทุกจุด เช็คอินเรียบร้อย ฟินกันไป แต่หนาวมากนะ
ส่วนถนนที่เราได้ผ่านก็คือ อันดับ 3 Chang La, อันดับ 2 Taglang La, อันดับ 1 Khardung La
รูปข้างล่างนี้จาก Taglang La
ส่วนนี่วิวจากหน้าต่างห้องน้ำที่ Khardung La ถนนที่สูงที่สุด 5555
วิวระหว่างทาง
วิวระหว่างทางที่นี่สวยนะ นั่งดูได้เพลินไม่เบื่อเลย ยกเว้นตอนที่เจอหินและฝุ่นเยอะๆ
ถนนลาดยางเส้นเล็กๆ กับถูเขารอบด้าน รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปไปหนังผจญภัยอะไรสักอย่าง
วิวสวยเหมือนภาพวาด
ได้เจอภาพวิวสวยๆที่เหมือนภาพวาดเยอะมาก อย่างรูปข้างล่างนี้เป็นระหว่างทางที่ไป Tso moriri lake หญ้าไล่เฉดสี และสีของหินมันเนียนตามาก
จนทำให้ดูเหมือนภาพวาดเลยทีเดียว ไม่ได้ใส่ฟิลเตอร์สีน้ำอะไรแบบนั้นนะ มันเนียนงี้จริงๆ
อันนี้เป้น Tso moriri lake ในตอนเช้า
หุบเขามันเผา
ชื่อนี้ตั้งเอง ระหว่างทางไป Tso moriri lake นั่นล่ะ จู่ๆก็เห็นภูเขาสีม่วงสะดุดตา แล้วมีหลายลูกมากเลยนะ
ก็เลยตั้งชื่อว่าหุบเขามันเผาเสียเลย
Pangong Lake
มาจุดเที่ยวกันบ้าง Pangong lake เนี่ยเป็นทะเลสาบน้ำเค็มใหญ่มากๆ กินเนื้อที่สองประเทศเลย คืออินเดียกับจีน
ส่วนที่อยู่ในอินเดียเนี่ย 40% เท่านั้นเอง แล้วน้ำใสอย่างกับทะเลอันดามันบ้านเรา ถ้ามีเตียงชายหาด กับร้านส้มตำนะใช่เลย
Tso moriri lake
เป็นทะเลสาบน้ำเค็มเช่นกัน แต่ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ฝุ่นเยอะมากกกก ลมพัดที หลบกันให้ทัน
ที่นี่อากาศแห้ง และฝุ่นเยอะ แต่วิวก็สวยไม่แพ้กันล่ะ นอกจากทะเลสาบยังมีท้องทุ่งเลี้ยงสัตว์ด้วย เหมือนไปซาฟารีเลยสนุกดี
ฝูงแพะ Pashmina เวลาเดินส่ายตู ฮาดี
แข็ง
ไม่มีอะไรมาก ที่ Pangong และ Tso moriri มันหนาวมาก แล้วตื่นเช้ามา น้ำข้างนอกก็เป็นอย่างที่เห็น… เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เจออะไรแบบนี้
ได้เห็น Yak
จริงๆก็คล้ายๆควายขนยาวนี่ล่ะ แต่เท่กว่ากันเยอะ แค่นี้ล่ะ..
อูฐ
เกือบจะเป็นทัวร์ซาฟารีไปแล้ว อันนี้ก็เห็นอูฐแบบใกล้ๆครั้งแรก แต่ไม่ได้ขี่นะ เดี๋ยวถ่ายรูปวิวลำบาก
มีอูฐก็ต้องมีทะเลทราย
ได้ถ่าย Sand dune อย่างที่อยากถ่ายมานาน ถึงทะเลทรายที่ Nubra valley จะไม่ยิ่งใหญ่อลังการ แต่ก็ถือว่าได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ
แม่น้ำไหลยาว
ระหว่างเดินทางเนี่ย เจอแม่น้ำเลาะเขาตลอด แล้วก็จะมีหมู่บ้านเป็นจุดๆ ตรงไหนมีต้นไม้ ก็จะมีคนอยู่อาศัย
แปลกดีเนอะ ทั้งๆที่มีน้ำ แต่ว่าต้นไม้กลับแทบไม่มีเลย
ทะเลเกลือที่ Tsokar lake
จริงๆมันก้เป็นทะเลสาบนี่ล่ะ แต่ว่าเค้าบอกว่าทะเลสาบนี้ตายแล้ว น้ำแหงลงเรื่อยๆ แต่ถ้าเมื่อ 5 ปีที่แล้วน่ะสวยนะ
เราจึงเจอทะเลเกลือแทน เพราะที่นี่ก็เป็นทะเลสาบน้ำเค็มเช่นกัน ก็จินตนาการว่าเป็นหิมะก็ได้นะ เพราะอากาศก็หนาวไม่แพ้หิมะเลยล่ะ 555
เมือง LEH
ขึ้นไปถ่ายรูปบนสถูปแถวๆที่พัก มองลงมาเห็นเมืองทั้งเมือง มันสวยมากนะ กับเมืองในหุบเขา (ในไทยผมก็ชอบแม่ฮ่องสอนล่ะ)
แสงทองผ่องอำไพ
อยากได้แสงแดงๆสาดเข้าที่วัดนี้ ดูมุมมาอย่างดี แต่วันแรกกลับมาขึ้นไม่ทันเพราะที่นี่ภูเขาล้อม ทำให้พระอาทิตย์หายไปไวมาก
ส่วนวันอื่นๆดันเจอเมฆมาบังทำให้แสงไม่แดงแบบนี้ มาได้เอาวันสุดท้ายก่อนกลับนี่ล่ะ ถือว่าโชคดีมาก
หิมะแรกของฤดูหนาว
ช่วงที่เราไปกำลังเริ่มจะเข้าหน้าหนาว ตอนแรกเมฆเยอะมากก็กลัวว่าจะฝน แต่อากาศแบบนี้คงไม่มีฝนหรอกหิมะเสียมากกว่า
เราก็เห็นตามยอดเขาว่าเริ่มมีสีขาวปกคลุม ทั้งๆที่วันแรกที่มายังไม่มีเลย แล้วระหว่างที่เดินในตลาดมันก็มาจ้า หิมะแรกของฤดูหนาว ฟินสุด ถึงจะมานิดเดียวก็เถอะ
ยอดเขาเริ่มมีหิมะคลุม ทั้งๆที่วันแรกไม่มีเลย
จริงๆมีอีกเยอะมาก แต่ยกเอามาแค่นี้ไว้เตือนความจำตัวเอง รีบเขียนก่อนจะลืม
สวัสดี..